ข่าวฟุตบอลศึก เวิลด์ คัพ ที่ เยอรมัน ในรอบชิงชนะเลิศระหว่าง ฝรั่งเศส และ อิตาลี จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 และต้องดวลจุดโทษตัดสิน โดยสุดท้ายเป็น "อัซซูรี่" ที่ชนะไป 5-3
อย่างไรก็ตามมีการเหตุการณ์โด่งดังที่กลบตำแหน่งแชมป์ของอิตาลีไปนั่นคือการที่ ซีดาน เอาหัวโขกใส่เต็มหน้าอกของ มาเตรัซซี่ ในช่วงต่อเวลาพิเศษและโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป
มาลูด้า ที่อยู่ในสนามวันนั้นด้วยกล่าวว่า "ในเกมชิงชนะเลิศและเหตุการณ์ที่โด่งดังกับ มาร์โก มาเตรัซซี่ ตอนนั้นผมอยู่ในสนาม ตัวผมและ ฟร้องค์ ริเบรี่ สลับฝั่งกันเล่นในช่วงต่อเวลา ดังนั้นผมใกล้กับเหตุการณ์นั้นมาก"
"แต่บอกตามตรงในจังหวะนั้นของเกม บอลยาวจากเขตโทษฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง จังหวะมันเร็วมากและเราที่เป็นนักเตะก็ตามลูกบอลไป ทุกคนสนใจกับอีกฝั่งของสนาม"
"เราทุกคนต่างแปลกใจว่าทำไมเกมถึงหยุด ตอนนั้นไม่มี วีเออาร์ ดังนั้นเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมสงสัยว่าทำไมผู้ตัดสินถึงหยุดเกมและจากนั้นผู้ตัดสินก็ชูใบแดงให้ ซิซู เราไม่เข้าใจเลย เราไม่ได้สนใจเหตุการณ์นั้น"
"แต่มันเกิดขึ้นแล้ว, ซิซู ออกจากสนามไปแล้วเราก็เดินหน้าต่อ เราพยายามชนะเกม นั่นคือสิ่งที่เราโฟกัส เราจัดระเบียบกันใหม่ แต่บอกตามตรง ในช่วงนั้นของเกมไม่มีการยืนตำแหน่งจริงจัง ทุกคนแค่พยายามชนะเกมก่อนที่จะดวลจุดโทษกัน"
"หลังเสียงนกหวีดสุดท้ายมีเพียงความผิดหวัง คุณแพ้ในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก คุณคิดถึงเหตุการณ์นั้นมาก เมื่อคุณกลับบ้านและอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้คุณได้เห็นภาพรีเพลย์"
"หลายคนถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นนับตั้งแต่วันนี้ แต่คำตอบที่ตรงไปตรงมาคือผมไม่รู้ ในสนามสิ่งต่างๆเกิดขึ้นเร็วมากและมีอารมณ์ต่างๆมากมายไปทั่ว เราไม่รู้ว่าอะไรนำไปสู่สิ่งนั้น"
"ผมเจอ ซีดาน 2-3 ครั้งหลังจากเรื่องนั้นและผมไม่เคยถามเขาเกี่ยวกับมันเลย มันจบไปแล้วและเราแพ้เกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก"