Menu

พลิกนรกช็อกโลก แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

โพสต์เมื่อ 7 มี.ค. 2562 09:01:16 น. เข้าชม 867 ครั้ง แจ้งลบ

"ปีศาจแดง" งัดฟอร์มสุดยอดเมื่อบุกมาคว้าชัยเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-1 จากสองประตูของ โรเมลู ลูกากู ก่อนที่จะมีดราม่าท้ายเกมช่วงทดเวลาเจ็บ เมื่อผู้ตัดสินดู VAR แล้วให้จุดโทษแก่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะซัดประตูชัยผ่านมือบุฟฟ่อนเข้าไป ทำให้ประตูรวมเสมอกัน 3-3 แต่ผีแดงผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยกฎประตูทีมเยือน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ (ผลการแข่งขันนัดแรก เปแอสเช บุกชนะแมนฯยูไนเต็ด 2-0)

    ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 45 ปี นำทีมชนะ 8 นัดซ้อนในการเล่นทุกรายการ เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ที่ได้เปรียบสกอร์มาเกมแรก วาง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นทีเด็ดล่าตาข่ายเหมือนเดิม และใช้ ดานี่ อัลเวส, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ และอังเคล ดิ มาเรีย ที่เป็นตัวป่วนในเกมแรก สนับสนุนอยู่ข้างหลัง ขณะที่ เอดินสัน คาวานี่ หายเจ็บกลับมามีรายชื่อสำรองอยู่ข้างสนาม

    ส่วน "ปีศาจแดง" ที่พังคาบ้านนัดแรกมา 0-2 แถมเกมนี้ต้องไร้ ปอล ป็อกบา ที่ติดโทษแบน และกับสภาพทีมที่พิการไม่สมบูรณ์ทำให้เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องเปลี่ยนระบบมาเล่นหลังสามตัวส่ง เอริก ไบยี่ ลงเล่นร่วมกับ คริส สมอลลิ่ง และวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ขณะที่แนวรุก มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นคู่กับ โรเมลู ลูกากู โดยมี อันเดรียส เปเรยร่า ยืนหน้าต่ำ


ส่วน "ปีศาจแดง" ที่พังคาบ้านนัดแรกมา 0-2 แถมเกมนี้ต้องไร้ ปอล ป็อกบา ที่ติดโทษแบน และกับสภาพทีมที่พิการไม่สมบูรณ์ทำให้เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องเปลี่ยนระบบมาเล่นหลังสามตัวส่ง เอริก ไบยี่ ลงเล่นร่วมกับ คริส สมอลลิ่ง และวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ขณะที่แนวรุก มาร์คัส แรชฟอร์ด เล่นคู่กับ โรเมลู ลูกากู โดยมี อันเดรียส เปเรยร่า ยืนหน้าต่ำ

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

    เปิดฉากมาแค่ 2 นาทีแรก กลายเป็น "ปีศาจแดง" ที่บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่นไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาดของ ตีโล เคห์เลอร์ ที่ส่งบอลคืนหลังสั้นไป โดน โรเมลู ลูกากู วิ่งตัดบอลไปได้ก่อนแตะหลบ จานลุยจิ บุฟฟ่อน แล้วยิงเข้าไป ให้ แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด ขึ้นนำ เปแอสเช 1-0 สกอร์รวมลูกทีมของ โซลชา ไล่มาเป็น 1-2

   ปารีสฯ หลังเสียประตูก็โหมบุกหนัก นาที 7 เอ็มปั๊ปเป้ รับบอลจาก ดิ มาเรีย ในเขตโทษก่อนจะกดด้วยขวาไปติดบล็อคของ สมอลลิง 

    นาที 12 เปแอสเช มาทวงตีเสมอ 1-1 จนได้ จากความผิดพลาดของแนวรับปีศาจแดงบ้างที่เช็กไลน์พลาด เอ็มปั๊ปเป้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปทางด้านขวาก่อนปาดเลียดมาหน้าประตูให้ ฆวน เบร์นาต แบ็กซ้ายเจ้าถิ่นเติมขึ้นมายิงโล่งๆ เข้าไป สกอร์รวม ปารีสฯ หนีห่างผีแดงไปเป็น 3-1 

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

    อีก 4 นาทีต่อมา ดานี่ อัลเวส จ่ายบอลไปที่ว่างให้ เอ็มปั๊ปเป้ วิ่งไปรับบอลก่อนกระชากหนี วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เข้าไปซัดมุมแคบบอลพุ่งอัดข้างตาข่ายแบบได้เสียวเหมือนกัน

   กลายเป็นเจ้าถิ่นที่บดแนวรับผีแดงอย่างสนุก นาที 19 ฆวน เบร์นาต หวิดบวกเม็ดที่สองของตัวเอง หลังอัดเต็มแรงบอลพุ่งไปติดมือ เด เคอา ชกออกไป ไม่ถึงนาทีต่อมา อดีตปีกผีแดง อังเคล ดิ มาเรีย เกือบซัดทีมเก่าอีกครั้ง คราวนี้ยิงไกลนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาสองออกไปนิดเดียว

   เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมง แฟนบอลเปแอสเชมาเงียบกริบอีกหน จากความยอดเยี่ยมของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตะบันนอกกรอบเต็มแรง จานลุยจิ บุฟฟ่อน พยายามจะรับเข้าซองแต่บอลหลุดมือปลิ้นมาเข้าทาง โรเมลู ลูกากู ที่วิ่งเข้าไปซ้ำอย่างรวดเร็วไม่เหลือให้ แมน ยูไนเต็ด แซงขึ้นนำเจ้าบ้านอีกครั้ง 2-1 สกอร์รวมไล่มาเป็น 2-3 แถมเป็นประตูที่สองของดาวยิงชาวเบลเยียมในเกมนี้ และเพิ่มสถิติยิง2ประตู 3 เกมติดต่อกัน 

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

   นาที 36 "ปีศาจแดง" เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก ส่ง ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงไปเล่นแทน เอริก ไบยี่ 

   จากนั้นไม่ถึงนาทีต่อมา ทีมเยือนหวิดได้ประตูเพิ่มอีกเม็ด จากลูกฟรีคิกกว่า 30 หลา แอชลี่ย์ ยัง ยกบอลข้ามแนวรับเจ้าถิ่นให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปซัดเลียดบอลพุ่งถากเสาสองออกไป ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

   ฝนยังตกมาอย่างหนักทำให้ผู้เล่นทั้งสองทีม คอนโทรลบอลกันยาก นาที 42 ทีมเยือนได้ลุ้นอีกรอบ อันเดรียส เปเรยร่า กระชากบอลเข้าไปในกรอบแบบได้ลุ้น ก่อนจะหักบอลมาติดแนวรับปารีสฯ แล้วไปเข้าซองบุฟฟ่อนที่คราวนี้รับไม่พลาด

   จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 (สกอร์รวม ปารีสฯ นำ 3-2)

    กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง กับสภาพอากาศที่มีสายฝนเทลงมาในสนาม 

    นาที 56 เจ้าถิ่นชวดโอกาสได้ประตูตีเสมอ หลัง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โชว์เหนือไขว้บอลลอดขาสมอลลิงให้ ดิ มาเรีย หลุดเข้าไปชิพบอลผ่านตัวเค เคอา เข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าของดิ มาเรียก่อนแล้ว

   นาที 69 เจ้าถิ่นเปลี่ยนสองคนรวด ถอดเอา ตีโล เคห์เลอร์ และ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ออกแล้วส่ง เลอันโดร ปาเรเดส และโธมัส เมอนิเย่ร์ ลงเล่นแทน

  ถัดมาอีก 3 นาที ปารีส ได้เสียวเลย คราวนี้ คีลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ ครอสบอลแรงมาหน้ากรอบจะถึง ดิ มาเรีย อยู่แล้วแต่ แอสชี่ย์ ยัง ยังเร็ววิ่งลงไปช่วยสกัดบอลพ้นอันตราย

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

   ช่วง 10 นาทีสุดท้าย นาที 82 เอ็มบั๊ปเป้ ได้หลุดเข้าไปในกรอบดวลกับ ดาบิด เด เคอา แต่ดันมาลื่นทำให้เสียจังหวะเข้าไปล่อเป้า แม้จังหวะต่อมา ฆวน เบร์นาต จะซัดมุมแคบเข้าไปแต่บอลก็ไปชนโคนเสาแบบน่าเสียดาย

   ช่วงทดเจ็บมีดราม่า เมื่อ ผู้ตัดสินไปดู VAR หลังลูกยิงของ ดีโอโก้ ดาโลต์ ไปโดนแขน เพรสแนล คิมเพมเบ้ แนวรับของเปแอสเช และเชิ้ตดำหลังดูวีดิโอย้อนหลังเสร็จวิ่งมาชี้เป็นจุดโทษของ "ปีศาจแดง" ก่อนที่มาร์คัส แรชฟอร์ด จะซัดเข้าไป ให้ "ผีแดง" นำห่าง 3-1 สกอร์รวม เสมอกัน 3-3 ซึ่งหากจบสกอร์นี้พวกเขาจะเข้ารอบทันที

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

     ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบเกม เป็นอันว่า ลูกทีมของ โซลชา สร้างปาฎิหาริย์เหลือเชื่อเมื่อบุกมาคว้าชัยเหนือ ปารีส แซงต์แชร์กแมง 3-1 รวมสองนัดเสมอกับเปแอสเช 3-3 แต่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกฎของประตูทีมเยือน อีกทั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือของ "ปีศาจแดง" ยังทำสถิติพาทีมชนะนอกบ้านเป็นเกมที่ 9 ทุกรายการติดต่อกัน แถม แมนฯยูไนเต็ด ยังเป็นทีมแรกในรอบน็อคเอาท์ ที่เกมแรกพ่ายด้วยสกอร์ห่าง 2 ประตูคาบ้าน ก่อนนัดที่สองจะบุกมาคว้าชัยพลิกเข้ารอบได้แบบเหลือเชื่อ

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

พลิกนรกช็อกโลก! ลูกากูเบิ้ล-แรชฟอร์ดฮีโร่ แมนยูบุกดับปารีสฯ เฮอเวย์โกลลิ่ว8ทีมชปล.

    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม  

        ปารีส แซงต์-แชร์กแมง  (4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - ตีโล เคห์เรอร์ (เลอันโดร ปาเรเดส น.70), ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), เพรสแนล คิมเพมเบ้, ฆวน เบร์นาต - มาร์โก แวร์รัตติ, มาร์กินญอส - ดานี่ อัลเวส (เอดินสัน คาวานี่ น.95), ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ (โธมัส เมอนิเย่ร์ น.70), อังเคล ดิ มาเรีย - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

        เทรนเนอร์ : โธมัส ทูเคิ่ล

        แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : ดาบิด เด เคอา - เอริก ไบยี่ (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.36), คริส สมอลลิ่ง, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ - แอชลี่ย์ ยัง (กัปตันทีม) ( เมสัน กรีนวูด น.87), สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, ลุค ชอว์ - อันเดรียส เปเรยร่า (ทาฮิธ ชอง น.80) - มาร์คัส แรชฟอร์ด, โรเมลู ลูกากู

Loading the player...

แสดงความคิดเห็น

facebook