.gif "g2g")
กฎระเบียบข้อบังคับ ดับซ่านักเตะ / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
โพสต์เมื่อ 7 ส.ค. 2562 19:31:36 น. เข้าชม 441 ครั้ง แจ้งลบ
คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ก็คงมีสาเหตุมาจาก เนย์มาร (Neymar) กองหน้าทีมชาติบราซิว วัย 27 ปี ที่ทำตัวมีปัญหามาตลอด เนื่องจากรู้สึกอึดอัดที่ยังต้องอยู่เล่นให้กับ ปารี แซ็ง แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) ต่อไปในฤดูกาล 2019-20 ที่ตอนนี้ความรู้สึกไม่สดใสเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนเซ็นสัญญาย้ายมาใหม่ๆเสียแล้ว และยังไม่มีใครยื่นข้อเสนอซื้อตัวมาอีก โดยเฉพาะ บารเซโลนา (FC Barcelona) ทั้งๆที่ตนก็ออกตัวแรงๆไปเยอะแล้ว ไม่ว่าจะการระบายความรู้สึกภายในที่ตนไม่มีความสุขโดยให้สัมภาษณ์สื่อในทางเสียหาย รวมทั้ง เจตนาเบี้ยวรายงานตัวในวันเข้าค่ายฝึกซ้อมก่อนเปิดฤดูกาล ทำให้ นัสเซอร อัล เคไลฟี (Nasser Al-Khelaifi) ประธานสโมสรถึงกับต้องสั่งทำกฎระเบียบของสโมสรแล้วให้นักเตะทุกคนลงนามเพื่อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ตอนที่ นัสเซอร เปิดเผยต่อสื่อเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาก็พูดปรามไว้พอสมควรแล้ว และยังแอบส่งสาส์นไปยัง คีเลียน อึมบั๊ปเป (Kylian Mbappé) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส วัย 20 ปี ที่กำลังมาแรงสุดๆและออกมาเรียกร้องขอรับบทบาทสำคัญ แบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึง ตอนนี้ศักยภาพของตนคงเบ่งบานเหนือนักเตะเพื่อนร่วมทีมทุกคนหมดแล้ว ดังนั้น ตนจะต้องเป็นศูนย์รวมของจักรวาล บอลทุกลูกต้องมีเป้าหมายมาที่ตนเพื่อส่งเข้าตาข่ายให้เอง ยิ่งไปกว่านั้น ความรับผิดชอบดังกล่าวอาจกินความหมายไปถึงปลอกแขนกัปตันทีมอีกด้วย
นัสเซอร ต้องการให้นักเตะมีวินัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้นกว่าก่อน โดยมอบอำนาจเต็มให้ เลโอนารโด (Leonardo Araújo) ผู้อำนวยการสโมสร อดีตมิดฟีลด์ทีมชาติบราซิว ทำหน้าที่เป็นผู้กำราบปราบพยศ มิให้ใครมาทำตัวเป็นดาราดัง ทำอะไรตามความพอใจของตนเอง แต่ทุกคนต้องให้ความเคารพและถือว่าสโมสรต้องมาก่อนและสำคัญที่สุด ไม่เช่นนั้น ประตูก็เปิดกว้าง ระเห็จไปได้ทุกเมื่อ
ในกรณีของ คีเลียน นั้น นัสเซอร ยืนยันว่า ยังอยู่เล่นให้ เปแอ๊สเช ชัวร์ๆ ไม่ใช่แค่ 100 เพอร์เซ็นท์ แต่มั่นใจถึง 200 เพอร์เซ็นท์ ไม่นึกพิเรณฑ์ขายออกไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก็มีเหน็บเหมือนกันว่า เรื่องความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เขาไม่ขอกันหรอก แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าเหมาะสมและไขว่คว้าแย่งชิงมาให้ได้
สำหรับปัญหากับกองหน้าอันดับ 1 ของโลกในการทิ้งตัวร้องโอดโอยอย่าง เนย์มาร นั้น นัสเซอร ยืนยันเสียงแข็งว่า ต้องการให้นักเตะทำเพื่อปกป้องเกียรติของสโมสรและทุ่มสุดตัวต่อแผนงานของสโมสร คือทุกคนเดินไปในทางเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ของสโมสร หากใครไม่ให้ความร่วมมือด้วยก็ต้องมาคุยกัน เพราะมันมีสัญญาที่ต้องยึดถือปฏิบัติตาม ซึ่งแต่ละคนก็เซ็นด้วยความยินยอมพร้อมใจเอง
หลังจากการออกมาพูดปรามดังกล่าว คราวนี้ก็ถึงเวลาปฏิบัติจริง ล่าสุด ฝ่ายกฎหมายของ เปแอ๊สเช ภายใต้การนำของผู้อำนวยการ เลโอนารโด ก็ได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับมาใหม่เป็นลายลักษณ์อักษรอีกฉบับหนึ่งซึ่งมีความหนาถึง 35 หน้า และจับนักเตะและสต๊าฟฟ์ทุกคนลงนามยอมรับและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งเนื้อหาในกฎระเบียบดังกล่าว ผมลองอ่านดูก็มีที่น่าสนใจ 3 ประการหลักๆก็คือ ห้ามให้ข่าวต่อสื่อโดยไม่ได้หารือกับทางสโมสรก่อน อันนี้คงเป็นการการันตีมิให้มีเรื่องในทางลบภายในสโมสรหลุดออกไปสู่สาธารณะอีกต่อไป ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และอาจบั่นทอนความนิยมที่แฟนคลับทั่วโลกมีต่อสโมสร ทำให้การสนับสนุนสินค้าที่ระลึก ตั๋วเข้าชมการแข่งขันลดลงแน่ๆ
การห้ามใช้บริการแพทย์ส่วนตัว อันนี้ก็คงเป็นมาตรการป้องกันปัญหาสารกระตุ้นต้องห้ามมิให้พลั้งพลาด เนื่องจากทางสโมสรมีแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจและวางใจได้ประจำการอยู่แล้ว นอกจากนั้น นักเตะคงใช้เป็นข้ออ้างต้องลาไปพบแพทย์ของตนเพื่อทำการรักษาแล้วถือโอกาสเบี้ยวซ้อมเบี้ยวแข่งไม่ได้แล้ว และอีกเรื่องสำคัญคือ ห้ามเล่นกีฬาบางชนิด ซึ่งเขามีรายชื่อกีฬาชนิดที่ห้ามมาให้เลย เช่น สกี เจ๊ทสกี คงเนื่องจากเป็นกีฬาที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ส่งผลให้สโมสรเสียประโยชน์เพราะนักเตะบาดเจ็บลงฝึกซ้อมหรือแข่งขันไม่ได้ อันนี้ บางสโมสรของไทยก็มีครับ
ก็คงมีสาเหตุมาจาก เนย์มาร (Neymar) กองหน้าทีมชาติบราซิว วัย 27 ปี ที่ทำตัวมีปัญหามาตลอด เนื่องจากรู้สึกอึดอัดที่ยังต้องอยู่เล่นให้กับ ปารี แซ็ง แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) ต่อไปในฤดูกาล 2019-20 ที่ตอนนี้ความรู้สึกไม่สดใสเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนเซ็นสัญญาย้ายมาใหม่ๆเสียแล้ว และยังไม่มีใครยื่นข้อเสนอซื้อตัวมาอีก โดยเฉพาะ บารเซโลนา (FC Barcelona) ทั้งๆที่ตนก็ออกตัวแรงๆไปเยอะแล้ว ไม่ว่าจะการระบายความรู้สึกภายในที่ตนไม่มีความสุขโดยให้สัมภาษณ์สื่อในทางเสียหาย รวมทั้ง เจตนาเบี้ยวรายงานตัวในวันเข้าค่ายฝึกซ้อมก่อนเปิดฤดูกาล ทำให้ นัสเซอร อัล เคไลฟี (Nasser Al-Khelaifi) ประธานสโมสรถึงกับต้องสั่งทำกฎระเบียบของสโมสรแล้วให้นักเตะทุกคนลงนามเพื่อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ตอนที่ นัสเซอร เปิดเผยต่อสื่อเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาก็พูดปรามไว้พอสมควรแล้ว และยังแอบส่งสาส์นไปยัง คีเลียน อึมบั๊ปเป (Kylian Mbappé) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส วัย 20 ปี ที่กำลังมาแรงสุดๆและออกมาเรียกร้องขอรับบทบาทสำคัญ แบกรับความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึง ตอนนี้ศักยภาพของตนคงเบ่งบานเหนือนักเตะเพื่อนร่วมทีมทุกคนหมดแล้ว ดังนั้น ตนจะต้องเป็นศูนย์รวมของจักรวาล บอลทุกลูกต้องมีเป้าหมายมาที่ตนเพื่อส่งเข้าตาข่ายให้เอง ยิ่งไปกว่านั้น ความรับผิดชอบดังกล่าวอาจกินความหมายไปถึงปลอกแขนกัปตันทีมอีกด้วย
นัสเซอร ต้องการให้นักเตะมีวินัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้นกว่าก่อน โดยมอบอำนาจเต็มให้ เลโอนารโด (Leonardo Araújo) ผู้อำนวยการสโมสร อดีตมิดฟีลด์ทีมชาติบราซิว ทำหน้าที่เป็นผู้กำราบปราบพยศ มิให้ใครมาทำตัวเป็นดาราดัง ทำอะไรตามความพอใจของตนเอง แต่ทุกคนต้องให้ความเคารพและถือว่าสโมสรต้องมาก่อนและสำคัญที่สุด ไม่เช่นนั้น ประตูก็เปิดกว้าง ระเห็จไปได้ทุกเมื่อ
ในกรณีของ คีเลียน นั้น นัสเซอร ยืนยันว่า ยังอยู่เล่นให้ เปแอ๊สเช ชัวร์ๆ ไม่ใช่แค่ 100 เพอร์เซ็นท์ แต่มั่นใจถึง 200 เพอร์เซ็นท์ ไม่นึกพิเรณฑ์ขายออกไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก็มีเหน็บเหมือนกันว่า เรื่องความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เขาไม่ขอกันหรอก แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าเหมาะสมและไขว่คว้าแย่งชิงมาให้ได้
สำหรับปัญหากับกองหน้าอันดับ 1 ของโลกในการทิ้งตัวร้องโอดโอยอย่าง เนย์มาร นั้น นัสเซอร ยืนยันเสียงแข็งว่า ต้องการให้นักเตะทำเพื่อปกป้องเกียรติของสโมสรและทุ่มสุดตัวต่อแผนงานของสโมสร คือทุกคนเดินไปในทางเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ของสโมสร หากใครไม่ให้ความร่วมมือด้วยก็ต้องมาคุยกัน เพราะมันมีสัญญาที่ต้องยึดถือปฏิบัติตาม ซึ่งแต่ละคนก็เซ็นด้วยความยินยอมพร้อมใจเอง
หลังจากการออกมาพูดปรามดังกล่าว คราวนี้ก็ถึงเวลาปฏิบัติจริง ล่าสุด ฝ่ายกฎหมายของ เปแอ๊สเช ภายใต้การนำของผู้อำนวยการ เลโอนารโด ก็ได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับมาใหม่เป็นลายลักษณ์อักษรอีกฉบับหนึ่งซึ่งมีความหนาถึง 35 หน้า และจับนักเตะและสต๊าฟฟ์ทุกคนลงนามยอมรับและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งเนื้อหาในกฎระเบียบดังกล่าว ผมลองอ่านดูก็มีที่น่าสนใจ 3 ประการหลักๆก็คือ ห้ามให้ข่าวต่อสื่อโดยไม่ได้หารือกับทางสโมสรก่อน อันนี้คงเป็นการการันตีมิให้มีเรื่องในทางลบภายในสโมสรหลุดออกไปสู่สาธารณะอีกต่อไป ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และอาจบั่นทอนความนิยมที่แฟนคลับทั่วโลกมีต่อสโมสร ทำให้การสนับสนุนสินค้าที่ระลึก ตั๋วเข้าชมการแข่งขันลดลงแน่ๆ
การห้ามใช้บริการแพทย์ส่วนตัว อันนี้ก็คงเป็นมาตรการป้องกันปัญหาสารกระตุ้นต้องห้ามมิให้พลั้งพลาด เนื่องจากทางสโมสรมีแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจและวางใจได้ประจำการอยู่แล้ว นอกจากนั้น นักเตะคงใช้เป็นข้ออ้างต้องลาไปพบแพทย์ของตนเพื่อทำการรักษาแล้วถือโอกาสเบี้ยวซ้อมเบี้ยวแข่งไม่ได้แล้ว และอีกเรื่องสำคัญคือ ห้ามเล่นกีฬาบางชนิด ซึ่งเขามีรายชื่อกีฬาชนิดที่ห้ามมาให้เลย เช่น สกี เจ๊ทสกี คงเนื่องจากเป็นกีฬาที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ส่งผลให้สโมสรเสียประโยชน์เพราะนักเตะบาดเจ็บลงฝึกซ้อมหรือแข่งขันไม่ได้ อันนี้ บางสโมสรของไทยก็มีครับ
แสดงความคิดเห็น
