.gif "g2g")
เรือ เอาคืน 2 ลูก แค่ 16 นาที จบสถิติ เชลซี ชนะ 6 เกมรวด
โพสต์เมื่อ 24 พ.ย. 2562 14:06:43 น. เข้าชม 567 ครั้ง แจ้งลบ
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หยุดสถิติชนะ 6 เกมรวด เฉพาะศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ พ่าย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี หวุดหวิด 1-2 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม คืนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2019-20
แมนฯ ซิตี 2-1 เชลซี
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ขาด แบร์นาร์โด ซิลวา ติดแบน ส่ง เซร์คิโอ อกูเอโร ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน ราฮีม สเตอร์ลิง และ ริยาด มาห์เรซ ล่าตาข่าย เชลซี ที่มี แทมมี อบราฮัม , คริสเตียน พูลิซิช และ วิลเลียน เป็นทีเด็ดแนวรุก
เกมผลัดกันรุกและรับ กระทั่งนาที 21 เชลซี ขึ้นนำ 1-0 มาเตโอ โควาซิช ตักข้ามแนวรับให้ เอ็น'โกโล ก็องเต ต้านแรงปะทะของ เบนจามิน เมนดี แล้วตวัดด้วยซ้ายสวน เอแดร์สัน นายทวาร โดนไม่เต็ม แต่ยังแรงพอข้ามเส้น
อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี ทวงคืนนาที 29 เควิน เดอ บรอยน์ ดักบอลแถวสอง อัดด้วยซ้าย ตีเสมอ 1-1 จากนั้นนาที 37 ริยาด มาห์เรซ ลากตัดด้านขวา แล้วยิงด้วยซ้ายตามสูตร เสียบมุมเสาไกล แซงนำ 2-1
แชมป์เก่า น่าบวกเพิ่มสุดๆ นาที 43 เซร์คิโอ อกูเอโร เก็บส้มหล่นจังหวะ เกปา อาร์ริซาบาลากา นายทวาร เปิดบอลเสีย แปสวนชนคาน เริ่มครึ่งหลัง นาที 65 อกูเอโร หยอดข้ามฟากให้ แฟร์นันดินโญ วอลเลย์ติดบล็อก ริยาด มาห์เรซ ซ้ำติดปลายมือ เกปา ข้ามคาน
ทีมเยือน ลำเลียงบอลหาช่อง โอกาสใกล้เคียงสุดเห็นจะเป็น นาที 80 วิลเลียน แต่งบอลลอยโด่ง แล้ววอลเลย์ด้วยขวา เอแดร์สัน ปัดปลายมือข้ามคาน จบเกม แมนฯ ซิตี เก็บเพิ่มเป็น 28 แต้ม จาก 13 นัด ขึ้นอันดับ 3 ส่วน เชลซี มี 26 แต้ม เท่าเดิม หล่นอันดับ 4
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : เอแดร์สัน , แฟร์นันดินโญ , จอห์น สโตนส์ , เบนจามิน เมนดี , เจา คานเซโล , โรดรี , ดาบิด ซิลบา , เควิน เดอ บรอยน์ , เซร์คิโอ อกูเอโร , ราฮีม สเตอร์ลิง , ริยาด มาห์เรซ
เชลซี : เกปา อาร์ริซาบาลากา , ฟิกาโย โทโมรี , เคิร์ต ซูมา , เอเมอร์สัน พาลมิเอรี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , จอร์จินโญ , มาเตโอ โควาซิช , เอ็น'โกโล ก็องเต , แทมมี อบราฮัม , คริสเตียน พูลิซิช , วิลเลียน
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2019-20
แมนฯ ซิตี 2-1 เชลซี
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ขาด แบร์นาร์โด ซิลวา ติดแบน ส่ง เซร์คิโอ อกูเอโร ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน ราฮีม สเตอร์ลิง และ ริยาด มาห์เรซ ล่าตาข่าย เชลซี ที่มี แทมมี อบราฮัม , คริสเตียน พูลิซิช และ วิลเลียน เป็นทีเด็ดแนวรุก
เกมผลัดกันรุกและรับ กระทั่งนาที 21 เชลซี ขึ้นนำ 1-0 มาเตโอ โควาซิช ตักข้ามแนวรับให้ เอ็น'โกโล ก็องเต ต้านแรงปะทะของ เบนจามิน เมนดี แล้วตวัดด้วยซ้ายสวน เอแดร์สัน นายทวาร โดนไม่เต็ม แต่ยังแรงพอข้ามเส้น
อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี ทวงคืนนาที 29 เควิน เดอ บรอยน์ ดักบอลแถวสอง อัดด้วยซ้าย ตีเสมอ 1-1 จากนั้นนาที 37 ริยาด มาห์เรซ ลากตัดด้านขวา แล้วยิงด้วยซ้ายตามสูตร เสียบมุมเสาไกล แซงนำ 2-1
แชมป์เก่า น่าบวกเพิ่มสุดๆ นาที 43 เซร์คิโอ อกูเอโร เก็บส้มหล่นจังหวะ เกปา อาร์ริซาบาลากา นายทวาร เปิดบอลเสีย แปสวนชนคาน เริ่มครึ่งหลัง นาที 65 อกูเอโร หยอดข้ามฟากให้ แฟร์นันดินโญ วอลเลย์ติดบล็อก ริยาด มาห์เรซ ซ้ำติดปลายมือ เกปา ข้ามคาน
ทีมเยือน ลำเลียงบอลหาช่อง โอกาสใกล้เคียงสุดเห็นจะเป็น นาที 80 วิลเลียน แต่งบอลลอยโด่ง แล้ววอลเลย์ด้วยขวา เอแดร์สัน ปัดปลายมือข้ามคาน จบเกม แมนฯ ซิตี เก็บเพิ่มเป็น 28 แต้ม จาก 13 นัด ขึ้นอันดับ 3 ส่วน เชลซี มี 26 แต้ม เท่าเดิม หล่นอันดับ 4
รายชื่อ 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี : เอแดร์สัน , แฟร์นันดินโญ , จอห์น สโตนส์ , เบนจามิน เมนดี , เจา คานเซโล , โรดรี , ดาบิด ซิลบา , เควิน เดอ บรอยน์ , เซร์คิโอ อกูเอโร , ราฮีม สเตอร์ลิง , ริยาด มาห์เรซ
เชลซี : เกปา อาร์ริซาบาลากา , ฟิกาโย โทโมรี , เคิร์ต ซูมา , เอเมอร์สัน พาลมิเอรี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , จอร์จินโญ , มาเตโอ โควาซิช , เอ็น'โกโล ก็องเต , แทมมี อบราฮัม , คริสเตียน พูลิซิช , วิลเลียน
แสดงความคิดเห็น
